แบล็คแจ็คออนไลน์ เดิมพันเกมครบ จบที่เดียว เล่นง่าย ไม่ยุ่งยาก เล่นสดแบบเรียลไทม์ ฝาก-ถอนออโต้ ทดลองเล่นฟรี 24 ชม. สมัครฟรีทันที
รู้จักกับแบล็คแจ็คออนไลน์
แบล็คแจ็ค (Blackjack) เป็นเกมไพ่อีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยมสูงมาก เมื่อก่อนเกมนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ แต่หลังจากที่พัฒนา และปรับปรุงแล้ว เกมนี้สามารถดึงดูดนักพนันหลายๆท่านให้เข้ามาเล่นกัน เกมนี้เป็นเกมที่มีมาแล้วกว่า 400 ปี ซึ่งมีต้นกำเนิดจากยุโรป โดยเกมนี้จะเป็นเกมที่เล่นง่าย ไม่ได้ซับซ้อนอะไร เพียงแค่ท่านต้องได้แต้มไพ่ 21 หรือใกล้เคียงมากที่สุด แต่ต้องห้ามต่ำกว่า 16 แต้มและห้ามมากว่า 21 แต้ม เพราะจะถือว่าแพ้ในเกมทันที หลังจากที่ได้เปิดตัวเกมนี้ก็กระจายไปทั่วโลก และนิยมเล่นกันมากๆในลาสเวกัส แต่ในประเทศอื่นๆจะไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไหร่ หลังจากที่เทคโนโลยีเข้าถึงแล้ว แบล็คแจ็ค ( Blackjack ) ก็ได้มีให้ท่านใช้บริการผ่านเว็บออนไลน์ต่างๆ ทำให้ผู้เล่นท่านอื่นเปิดใจและลองเล่นเกมนี้กันเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อก่อนต้องไปที่บ่อนเท่านั้น บางท่านอาจจะไม่สะดวกเท่าไหร่ โดยเฉพาะประเทศไทยที่ไม่ค่อยจะมีบ่อนให้ได้เล่นกัน แต่หลังจากนั้นเมื่อมีการให้บริการทางออนไลน์ กลับได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆรวมถึงที่ไทยด้วย เพราะเกมไพ่เป็นเกมพื้นบ้านของชาวไทย จึงสามารถครองใจผู้เล่นชาวไทยได้อย่างมาก ท่านสามารถเดิมพันแบล็คแจ็คออนไลน์ เกมครบ จบที่เดียวได้แล้ววันนี้
กติกาการเล่น
- เกมแบล็คแจ็ค (Blackjack) ผู้เล่นจะต้องได้ไพ่ที่มีแต้มเท่ากับ 21 หรือใกล้เคียงมากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะทันที
- หากผู้เล่นได้ไพ่ที่มีแต้มเกิน 21 ก็จะถูกปรับแพ้ทันที
- กรณีที่ผู้เล่นมีแต้ม 21 และเจ้ามือก็มีแต้ม 21 ระบบเกมก็จะตัดสินจากไพ่ว่าฝ่ายไหนมีไพ่แบล็คแจ็คก็จะเป็นฝ่ายชนะ
- หากท่านได้แต้มไพ่ 21 จากไพ่ที่แจก 2 ใบแรกเลย ท่านจะได้รับอัตราการจ่าย 5 เท่าของเงินเดิมพัน
การนับแต้มไพ่
- ไพ่ A (Ace) เป็นไพ่ที่มีการตีแต้ม 2 แบบคือ หากไพ่ A ไปอยู่รวมกับไพ่ 10, J, Q หรือ K แต้มก็ได้เท่ากับ 11 แต่หากไพ่ A ไปอยู่รวมกับไพ่เลข 2–9 ก็จะมีค่าเพียงแค่ 1 แต้มเท่านั้น
- 2–9 จะมีแต้มตามเลขหน้าไพ่ไพ่
- ไพ่ 10, J, Q และ K จะมีแต้มเท่ากับ 10
ศัพท์ที่ควรรู้ก่อนเล่น
- Hit หมายถึงการสู้ โดยผู้เล่นจะได้จั่วไพ่เพิ่มเพื่อสะส้มแต้มให้ได้ใกล้เคียง 21 มากที่สุด
- Stand หมายถึงการหยุด หากท่านพึงพอใจกับแต้มไพ่ที่ได้รับแล้ว ท่านสามารถกด Stand เพื่อไม่รับไพ่เพิ่ม และรอจนกว่าการแข่งขันจะจบ หากท่านหรือเจ้ามือมีแต้มใกล้เคียง 21 มากกว่าก็จะชนะ
- Double Down เป็นการลงเงินเพิ่มอีก 1 เท่าจากจำนวนเงินที่ลงไปก่อนหน้านี้
- Split เป็นการแยกไพ่ในกรณีที่ผู้เล่นพบว่า ไพ่ทั้ง 2 ใบที่ได้รับออกมาเป็นคู่ โดยจะต้องเพิ่มเงินเดิมพันและเล่นไพ่พร้อมกัน 2 ชุด
- Insurance เป็นเหมือนการทำประกันไว้ เพื่อผู้เล่นต้องการเงินเดิมพันเพิ่มครึ่งหนึ่งของเงินที่ลงเดิมพันในตาก่อนหน้า และถ้าเจ้ามือได้แบล็คแจ็คผู้เล่นจะได้เงินส่วนที่ทำประกันไว้ แต่หากเจ้ามือแพ้ก็จะเสียเงินประกันส่วนนั้นไป
- Surrender คือการที่ผู้เล่นต้องการยอมแพ้ โดยจะได้เงินเดิมพันกลับมาครึ่งหนึ่ง แต่จะใช้ได้ในกรณีที่เป็นไพ่ 2 ใบแรกเท่านั้น
วิธีการเล่น
- เมื่อเข้าเกมแล้วระบบจะมีเวลาให้ท่าน 10 วินาทีเพื่อเลือกจำนวนเงินเดิมพัน
- จากนั้นดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ โดยไพ่ใบที่ 1 เป็นของผู้เล่น และใบที่ 2 เป็นของเจ้ามือ
- หลังจากนั้นดีลเลอร์จะทำการหมายไพ่ 1 ใบเอาไว้ หลังจากที่แจกไพ่รอบแรก หลังจากนั้นดีลเลอร์ก็จะแจกไพ่รอบ 2 โดยจะให้ผู้เล่นก่อน และตามด้วยเจ้ามือ รวมเป็นฝ่ายละ 2 ใบ
- ไพ่ของเจ้ามือจะต้องหงาย 1 ใบและคว่ำ 1 ใบ แต่ของผู้เล่นจะต้องคว่ำไว้ทั้ง 2
- หากผู้เล่นต้องการจั่วไพ่เพิ่ม (ในกรณีที่ไม่พอใจแต้มที่ได้รับโดยสามารถจั่วได้ 1 ใบเท่านั้น)
- เจ้ามือจะเปิดไพ่ไว้เพียงแค่ 1 ใบเท่านั้น และรอให้ผู้เล่นทุกท่านจั่วไพ่ให้ครบทุกคนก่อน
- เจ้ามือสามารถจั่วไพ่ได้ (ในกรณีที่เห็นว่าของตัวเอง ไม่ได้ใกล้เคียงแต้ม 21)
- หลังจากที่ผู้เล่นทุกท่านได้ไพ่ครบจนหมดแล้ว เจ้ามือก็จะทำการเปิดไพ่ทั้งหมด โดยที่เจ้ามือสามารถจั่วไพ่ได้เรื่อยๆจนกว่าจะได้แต้มเท่ากับ 17 หรือมากกว่า เพราะกติกาของเกมนั้นเจ้ามือจะต้องมีไพ่ที่ไม่ต่ำกว่า 17 แต้ม
- หากผู้เล่นมีแต้มน้อยกว่า 17 ก็จะถือว่าแพ้เจ้ามือ แต่หากผู้เล่นมีแต้ม 16 แล้วเจ้ามือมีมากกว่า 21 ผู้เล่นก็จะเป็นฝ่ายชนะ